จุดเด่น
- ทำงานและโต้ตอบได้รวดเร็ว
- ปรับแต่งระบบปฎิบัติการ Android ให้ใช้กับแท็บเล็ตได้ดี
- เว็บเบราว์เซอร์รองรับการทำงานของ Flash Player
- แชร์ไฟล์ (Sync) กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยง่าย
จุดด้อย
- หน้าจอจะมีไอคอนขนาดเล็กและเครื่องมืออัดแน่น ทำให้ดูสับสนวุ่นวายสักหน่อย
- การวางลำโพงไว้ด้านหลัง ทำให้ทิศทางของเสียงวิ่งออกไป
- ระบบชาร์จไฟที่ไม่ค่อยสะดวกนัก
Android บน Tablet
แม้ว่าแอพพลิเคชั่นบน HoneyComb จะมีมากแล้วก็ตาม แต่จะหาที่เด่นๆยังน้อยอยู่ Motorola Xoom ถือเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกๆ ที่นำเอาระบบปฏิบัติการ Android ของ Google มาใช้ในอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอขนาดใหญ่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ จะปรากฎให้เห็นเฉพาะในโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนเท่านั้น
การมาของ Android เวอร์ชั่น 3.0 หรือที่มีชื่อเรียกขานว่า HoneyComb ได้เพิ่มคุณสมบัติ ความสนุกสนานที่หลากหลายขึ้น แต่การที่หาแอพพลิเคชั่นดีๆมาใช้งานยังมีน้อยอยู่ แม้ว่าแอพพลิเคชั่นสำหรับ Android มีไม่น้อยแล้วก็ตาม
HoneyComb หวานกว่าน้ำผึ้ง
Samsung Galaxy Tab เคยสร้างความฮือฮามาแล้วด้วยการนำ Android ไปไว้บนแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว แต่เป็นรุ่น Android 2.2 ที่มีชื่อเรียกขานว่า Froyo ซึ่งแม้ Google เองก็ยอมรับว่าไม่เหมาะที่จะใช้กับจอที่ใหญ่กว่าของโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนและนี่เป็นเหตุผลว่าทำไม Motorola XOOM เลือกที่จะใช้ระบบปฏิบัติการ HoneyComb
ถ้าเราคุ้นเคยกับการใช้ Android ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เราจะพบคุณสมบัติต่างๆ ที่รู้จักดีและเป็นที่ชื่นชอบอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่นมีห้าหน้าจอหลักที่เราสามารถปรับแต่ง ชอร์ทคัตและเครื่องมือ เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานในสิ่งที่ต้องการบนหน้าจอได้เอง
หน้าจอสามารถรองรับ ไอคอนต่างๆได้มากถึง 56 ไอคอน ซึ่งเราคิดว่าค่อนข้างจะมากไปสักหน่อย และหากมีการกำหนดและจัดวางไม่ดีพอ อาจจะทำให้หน้าจอดูวุ่นวาย ยุ่งเหยิงไปเลย ซึ่งเราคาดหวังว่าในอนาคตจะมีการออกแบบไอคอนเหล่านี้ให้มีขนาดใหญ่และสวยงามมากขึ้น
HoneyComb ได้ปรับแต่งระบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟสของ Android ให้ใช้ประโยชน์จากความใหญ่ของหน้าจอได้ดียิ่งขึ้น เช่น มีการปรับปุ่มกดต่างๆที่อยู่บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ให้เป็นปุ่มสัมผัสบนหน้าจอแทน ซึ่งไม่ว่าเราจะหมุน Motorola Xoom ในแนวตั้งหรือแนวนอน ปุ่มควบคุมนี้ก็จะปรากฎที่ด้านซ้ายล่างของหน้าจอเสมอ
โดยรวมแล้ว HoneyComb ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัว มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายแม้กับผู้ที่ไม่เคยใช้งานแท็บเล็ตมาเลย การทำงานที่รวดเร็ว
และปุ่มควบคุมต่างๆบนหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ใช้งานง่าย ตอบสนองได้เร็ว
สนุกกับ Applications
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของ Android คือความสามารถในการใช้งานแอพลิเคชันที่ออกแบบโดยทั่วไป แม้ว่าจะยังมีแอพพลิเคชั่นสำหรับ HoneyComb โดยเฉพาะยังน้อยอยู่ในตลาดของ Android ในขณะนี้ แต่เนื่องจากยังถือว่าเป็นช่วงเริ่มต้นเท่านั้นและแน่ใจได้เรื่อยว่าจะมีตามออกมาอีกเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ HoneyComb มีความแข็งแกร่งและน่าสนใจขึ้นไปอีกแน่ๆ
เราสามารถนำแอพลิเคชันที่ทำงานบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน มาใช้ใน Motorola Xoom ได้เช่นกัน แต่ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ ทำให้การแสดงผลต้องขยายหรือยืดออกไป
แท็บที่ไม่ธรรมดา
Google ได้ปรับแต่งเบราว์เซอร์ใน Android โดยเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ เช่นเราสามารถดูหน้าเพจที่เปิดไว้หลายๆผ่านแท็บได้ง่ายขึ้น
ตัวเบราว์เซอร์ก็ทำงานได้ถูกต้องและรวดเร็ว แม้จะไม่รวดเร็วเท่าใน iPad 2 แต่ข้อได้เปรียบสำคัญที่เหนือกว่าคือการรองรับการทำงานของ Flash Player ซึ่งนอกจากจะทำให้เราสามารถดูวิดีโอออนไลน์แบบ Flash ได้แล้ว การเรียกใช้งานเว็บไซต์ที่มีแฟลชเป็นส่วนประกอบ ก็สามารถทำได้ดีอีกด้วย
Flash คือส่วนสำคัญที่ขาดหายไปใน iPad แม้ว่าเว็บไซต์ต่างๆกำลังเร่งในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยนำ HTML5 หรือตัวเลือกอื่นๆมาใช้แทน การที่ Motorola Xoom สนับสนุนการทำงาน Flash ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่เข่นคู่แข่งอีกค่ายลงได้
ภาคการแสดงผล
หน้าจอ Motorola XooM มีความละเอียดที่ 1290X800 pixel และอัตราส่วน 16:9 ซึ่งเหมาะสำหรับการดูวิดีโอแบบไวด์กสรีน และสามารถโหลดวิดีโอของเราไปยังแท็บเล็ตผ่านทาง USB Port หรือจะดู YouTube ผ่านแฟลชที่อยู่ในเบราว์เซอร์ได้อย่างง่ายดาย
Motorola Xoom อาจจะมีจุดอ่อนในภาคแสดงผล ในเรื่องมุมมอง ความคมชัดและการสะท้อนของหน้าจอเมื่อแสดงภาพหรือวีดีโอ ซึ่งทำได้ไม่ดีเท่ากับ iPad 2 แต่การแสดงเว็บเพจต่างๆบน Motorola Xoom สามารถอ่านได้อย่างสมบูรณ์แบบและข้อความที่มีความคมชัด ซึ่งหากเราไม่นำไปเปรียบเทียบกับ iPad 2 แล้วการแสดงผลของ Motorola Xoom ก็ไม่ค่อยจะเป็นปัญหาเท่าใดนัก
ในส่วนของเสียง Motorola Xoom จะมีปุ่มปรับเสียงค่อนข้างเล็กและกดยากสักนิด และทิศทางเสียงจากลำโพงที่อยู่ด้านหลังจะพุ่งออก แทนที่จะวิ่งเข้าหาเรา ทางออกก็คือใช้หูฟัง แต่การที่แจ็ค 3.5 มม. อยู่อีกด้านหนึ่ง ทำให้เมื่อใช้งานหูฟังแล้วจะทำให้ใส่ซองลำบาก
มิติและขนาด
หากเราตั้งใจจะใช้งานในส่วนการดูวิดีโอมาก ก็อาจพิจารณาในการซื้อขาตั้งด้วย เพราะด้วยน้ำหนัก 730g ซึ่งเท่ากับiPad รุ่นแรก แต่หนักกว่า iPad 2 ถึง 129กรัม
ขนาดของ Motorola Xoom อยู่ที่ 168x250x13 มม. ซึ่งถือว่ามีความเบาบางพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับ Apple iPad2 ซึ่งหนาเพียง 8.8mm ทำให้ Motorola Xoom อาจจะดูหนากว่าสักหน่อย
มีหลายความเห็นเกี่ยวกับขนาดที่เหมาะสำหรับแท็บเล็ต ว่าควรมีขนาด 7 นิ้วเหมือน Galaxy Tab ที่มีขนาดเล็กพอที่จะเก็บในกระเป๋าได้ หรือ ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่าง iPad 2 หรือ Xoom แต่สามารถใช้ทำงานอื่นๆ เช่นงานแก้ไขเอกสารได้
จะเห็นว่าแท็บเล็ตขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการพกพาติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยมากกว่า
กล้องขนาดใหญ่
Motorola Xoom มีกล้องด้านหลังขนาด 5 ล้านพิกเซลที่อยู่ด้านหลัง พร้อมไฟ LED 2 ดวงสำหรับถ่ายรูปได้ทุกขณะ นอกจากนี้ยังมีกล้องขนาด 2 ล้านพิกเซลอยู่ด้านหน้าสำหรับถ่ายภาพตัวเองสนุกๆ
กล้องทั้งสองจะใช้งานง่ายและได้นานตราบเท่าที่เราพอที่จะมีแรงถือ Motorola Xoom กล้องด้านหลังสามารถถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพเดียวกับที่จากกล้องบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เราจะสนุกกับการถ่ายภาพทั่วไป, การสร้างวิดีโอแบบง่ายๆไว้ดูเล่น แต่อาจไม่เหมาะสำหรับงานถ่ายวีดีโอแบบจริงจังนัก
Motorola Xoom มีหน่วยความจำในตัวขนาด 32GB สำหรับการจัดเก็บภาพและวีดีโอต่างๆ และยังมีช่องสำหรับใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD แต่น่าเสียดายที่ HoneyComb ยังไม่สนับสนุนการ์ดหน่วยความจำ แต่โมโตโรล่าสัญญาว่าจะออกซอฟแวร์ตัวใหม่ที่สามารถรองรับการ์ดหน่วยความจำทันทีที่สามารถทำได้
การชาร์จแบตเตอรี่ ที่น่าผิดหวัง
Motorola Xoom ระบุว่าแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง เมื่อท่องเว็บผ่าน Wi-Fi แต่จากการทดสอบเราพบว่าอาจใช้ได้น้อยกว่าเล็กน้อย แต่อาจเป็นเพราะเราปรับความสว่างของหน้าจอก็เป็นไปได้
ระบบการชาร์จไฟ เป็นส่วนที่ทำให้เราถึงกับอึ้ง Motorola Xoom ไม่ได้มีระบบชาร์จไฟที่หลากหลายและอำนวยความสะดวกให้เราเลย ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จผ่าน USB เมื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์หรือมีระบบชาร์จไฟที่รองรับมาตรฐาน Micro - USB แต่ Motorola Xoom เลือกใช้ระบบชาร์จไฟเฉพาะของตัวเองและต้องเสียบปลั๊กไฟบ้านเท่านั้น
ข้อสรุป
ถ้าคุณกำลังมอง Android 3.0 HoneyComb Tablet เพื่อมาใช้งานก่อนใคร Motorola Xoom จัดได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยมีสไตล์
แต่ถ้าหากนำไปเปรียบเทียบกับ iPad 2 ซึ่งเบาและบางกว่า ทำให้ Motorola Xoom รู้สึกจะหนักไปสักหน่อย แม้ว่าจะมีคุณสมบัติอื่นที่ดีกว่าเช่นกล้อง 5 ล้านพิกเซลและพอร์ต HDMI ก็จะไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นจากความเมื่อยล้าในการถือ Xoom เลย
ดังนั้นหากไม่รีบร้อนนัก การรอ HoneyComb รุ่นอื่นที่มีน้ำหนักเบากว่านี้ ที่กำลังเข็นออกมาสู่ท้องตลาดก็น่าจะดี
ผู้ที่ใช้แท็บเล็ต Motorola XOOM ในสหรัฐเริ่มได้อัพเกรดเป็น Android 3.1 กันแล้ว เว็บไซต์ CrunchGear ทดสอบและค้นพบของใหม่ดังนี้